Header Ads

test

มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard Measure: SG)


มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น เป็นมาตรการทางการค้าที่ประเทศผู้นำเข้าใช้ในการคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในที่ได้รับความเสียหาย หรือมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายจากการนำข้าที่เพิ่มมากขึ้นมากกว่าปกติ เพื่อเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมภายในของประเทศดังกล่าวสามารถปรับตัวให้สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้

การใช้มาตรการ SG ของไทย

1.กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น พ.ศ.2550

2.ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาใช้มาตรการ SG
2.1 ปริมาณการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณเพิ่มขึ้นจริง อย่างชัดเจน (Absolute Increased) หรือ ปริมาณเพิ่มขึ้นโดยเปรียบเทียบ (Relative Increased) ระหว่างปริมาณนำเข้ากับปริมาณการผลิตในประเทศ
2.2 การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลจากเหตุการณืที่ไม่อาจคาดการณืล่วงหน้าได้ (Unforeseen Development)
2.3 การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนั้นก่อให้เกิดหรือคุกคามให้เกิด ‘ความเสียหายอย่างร้ายแรง’ (Serious Injury or Threat thereof) ต่ออุตสาหกรรมภายใน ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในการพิจารณาความเสียหายได้แก่
(1) อัตราและปริมาณของการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น
(2) ส่วนแบ่งตลาดของสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น
(3) การเปลี่ยนแปลงของระดับการขาย
(4) การเปลี่ยนแปลงของระดับผลผลิต
(5) การเปลี่ยนแปลงของระดับผลิตภาพ
(6) การเปลี่ยนแปลงของระดับกำลังการผลิตที่ใช้จริง
(7) การเปลี่ยนแปลงของระดับกำไรและขาดทุน
(8) การเปลี่ยนแปลงของระดับการจ้างงาน

3.ประเภทของมาตรการ Safeguards ​​​​​​​
3.1 Global Safeguards (SG)คือ
มาตรการ SG ภายใต้ความตกลงว่าด้วยมาตรการ SG ของ WTO และ Article X ของ GATT 1994 ที่ใช้บังคับกับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศโดยไม่คำนึงถึงแหล่งที่มาของสินค้า
3.2 Bilateral Safeguards หรือ Transitional Safeguards คือ
มาตรการ SG สองฝ่ายภายใต้ความตกลงการค้าเสรี หรือความตกลงสองฝ่ายอื่นๆ ซึ่งใช้บังคับกับสินค้านำเข้าเฉพาะจากประเทศคู่ภาคี และใช้กับสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าลด / เลิกอากรศุลกากรระหว่างกัน
3.3Special Safeguards (SSG) คือ
- มาตรการปกป้องพิเศษภายใต้ความตกลงเกษตรของ WTO ที่ใช้บังคับกับสินค้าเกษตรที่ผูกพันไว้กับ WTO ซึ่งนำเข้าจากทุกประเทศ
- มาตรการปกป้องพิเศษ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีที่ใช้บังคับกับสินค้าที่มีความอ่อนไหว (sensitive) ที่ภาคี 2 ฝ่ายกำหนดร่วมกัน

4.ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ใช้มาตรการ SG คือ
4.1 อุตสาหกรรมภายในผู้ผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน (Like product) หรือแข่งขันโดยตรง (directly competitive) กับสินค้านำเข้าที่ถูกพิจารณา (product under consideration) ซึ่งมี ปริมาณการผลิตเป็นสัดส่วนใหญ่ (a major proportion) ของปริมาณการผลิตรวมทั้งประเทศ โดยอาจเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายเดียว หรือหลายรายที่มีผลผลิตรวมกันเป็นสัดส่วนใหญ่
4.2 หน่วยงานผู้มีอำนาจในการไต่สวน (กรมการค้าต่างประเทศ) เปิดไต่สวนเอง (กรณีที่ไม่มีการยื่นคำร้องขอของอุตสาหกรรมภายในตาม 4.1) หากกรมการค้าต่างประเทศเห็นว่ามีการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น และมีหลักฐานว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมภายใน ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น

5.ข้อกำหนดในการใช้มาตรการ SG
5.1 มาตรการ SG จะใช้บังคับกับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศโดยไม่คำนึงถึงแหล่งที่มาของสินค้า ซึ่งเป็นไปตามหลักการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง (Most-Favored Nation: MFN) ยกเว้นมาตรการ Bilateral SG และ Special SG ภายใต้การค้าเสรี จะใช้บังคับเฉพาะสินค้าจากประเทศคู่ภาคี
5.2 ให้ใช้มาตรการ SG เท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันหรือบำบัดความเสียหาย และเพื่อให้อุตสาหกรรมภายในมีระยะเวลาในการปรับตัว
5.3 เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อ 5.2 อุตสาหกรรมภายในที่ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวน ต้องทำแผนการปรับตัวยื่นต่อกรมการค้าต่างประเทศภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันประกาศใช้มาตรการ SG
5.4 มาตรการ Global SG มีข้อยกว้นว่าไม่ให้ใช้มาตรการGlobal SG กับสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศกำลังพัฒนา ตราบเท่าที่ส่วนแบ่งการนำเข้าจากประเทศนั้น ไม่เกินร้อยละ 3 ของปริมาณการนำเข้าสินค้านั้นโดยรวม แต่ทั้งนี้สินค้าที่นำเข้าจากประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายที่มีส่วนแบ่งการนำเข้าไม่เกินร้อยละ 3 นั้น รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 9 ของปริมาณการนำเข้าสินค้านั้นโดยรวม

6.รูปแบบและระยะเวลาในการบังคับใช้มาตรการ SG
6.1มาตรการปกป้องชั่วคราว (Provisional Measure)
หากพิจารณาในเบื้องต้นพบว่า การนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้ก่อให้เกิดความเสียหายและเป็นสถานการณ์วิกฤต ซึ่งหากดำเนินการล่าช้าจะก่อให้เกิดผลเสียหาย ยากต่อการแก้ไข ประเทศผู้ใช้มาตรการสามารถใช้มาตรการปกป้องชั่วคราวได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- มาตรการที่ใช้ควรอยู่ในรูปของการเพิ่มอากรขาเข้า เพื่อให้ง่ายต่อการคืนในกรณีที่ไต่สวนแล้วไม่พบความเสียหาย
- ระยะเวลาที่ใช้ต้องไม่เกิน 200 วัน
- หากผลการไต่สวนพบว่าการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย จะต้องคืนอากรที่เรียกเก็บเพิ่มให้แก่ผู้นำเข้า
6.2มาตรการปกป้องทั่วไป (Global SG)
- สามารถดำเนินการใช้มาตรการทางภาษี หรือจำกัดปริมาณการนำเข้า
- ใช้บังคับได้ในระยะเวลาที่จำเป็น แต่ไม่เกินครั้งละ 4 ปีนับแต่วันประกาศบังคับใช้
-กรณีจำเป็น สามารถขยายระยะเวลาการใช้มาตรการ ทั้งนี้ ระยะเวลาที่บังคับใช้ทั้งหมดซึ่งรวมทั้งระยะเวลาที่บังคับใช้มาตรการชั่วคราวแล้วต้องไม่เกิน 10 ปี สำหรับประเทศกำลังพัฒนา และ 8 ปีสำหรับประเทศพัฒนาแล้ว

7.ขั้นตอนและกระบวนการใช้มาตรการ SG
- อุตสาหกรรมภายในยื่นคำร้องขอตามแบบที่กำหนดต่อกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้เปิดการไต่สวน
- กรมการค้าต่างประเทศ พิจารณาคำร้องขอว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลจะประกาศเปิดการไต่สวน โดยจะต้องแจ้ง WTO เพื่อแจ้งเวียนประเทศสมาชิกทราบ และแจ้งรัฐบาลประเทศ ผู้ส่งออก รวมทั้งจัดส่งแบบสอบถามให้ผู้มีส่วนได้เสีย
- กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการไต่สวนความเสียหาย โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 8 ปัจจัยที่กล่าวไว้ข้างต้น และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) และนำเสนอผลการไต่สวนต่อคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง (คปป.) เพื่อวินิจฉัย
- คปป. วินิจฉัยผลการไต่สวนและนำเสนอ รมว. พาณิชย์พิจารณาเห็นชอบ
- รมว. พาณิชย์พิจารณาคำวินิจฉัย หากเห็นชอบ กรมการค้าต่างประเทศจะออกประกาศบังคับใช้มาตรการ

สามารถเเข้าไปตรวจสอบสินค้าที่ไทยใช้มาตราการปกป้องได้ที่ https://www.thaitr.go.th/th/measure_info/sg/investigate  และตรวจสอบสินค้าที่ไทยถูกใช้มาตราการปกป้องได้ที่ https://www.thaitr.go.th/th/measure_info/sg/defend

ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น